Dawn of Us [3]

Title : Dawn of Us [3]

Pairing : Bruce Wayne/Clark Kent

Note :  AU Type, No superheroes, PART I of The Three Musketeers stories

__________________

.

musketeers-1st_dawn-of-us

Chapter 3

___________________________________

.

วันนี้เป็นวันเสาร์ วันที่คลาร์กรู้สึกว่าชีวิตมีความสุขมากๆกว่าวันธรรมดา

 

 

เพราะเขาไม่มีความจำเป็นอะไรต้องเข้าไปที่คฤหาสน์ เนื่องจากปกติคุณมาร์ธาจะไม่ค่อยออกไปไหนช่วงสุดสัปดาห์ แม่ของเขาจึงรับหน้าที่ทำงานอยู่ในคฤหาสน์ได้ทั้งวัน ส่วนตัวเขาเองก็ดูแลภายนอกตามที่ได้รับมอบหมายมาตั้งแต่แรก

 

 

ชายหนุ่มวัยยี่สิบหกฮัมเพลงขณะรดน้ำต้นไม้อย่างอารมณ์ดี คิดในใจว่าอยู่ข้างนอกแบบนี้ปลอดภัยกว่าเยอะ…ปลอดภัยจากการที่ต้องเจอกับใครบางคน

 

 

คลาร์กไม่ได้เกลียดหรือไม่ชอบหน้าคุณชายใหญ่ เขาแค่กลัว…เพราะอีกฝ่ายชอบดุ ก็ไม่รู้หรอกว่าทำไมถึงชอบดุ เอาเป็นว่าคลาร์กเลือกได้ก็ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับคุณชาย…ไม่อยากทำให้เขาเครียดหรือไม่สบายใจ และก็ไม่อยากโดนดุด้วย

 

 

รดน้ำต้นไม้รอบๆคฤหาสน์เสร็จก็เดินกลับไปดูแลแปลงดอกไม้เล็กๆหลังบ้านตน ในตอนนั้นเขาก็เห็นอะไรบางอย่างกำลังกลิ้งไปมาบนแปลงดอกไม้ของเขา

 

 

“เฮ้ย แมว!” คลาร์กอุทานอย่างตกใจแล้วเปลี่ยนจากเดินเป็นวิ่งทันที “เจ้าเหมียว! หยุดเลยนะ นายจะนอนกลิ้งบนแปลงดอกไม้ไม่ได้นะ” เจ้าเหมียวสะดุ้งหันขวับมา ร่างเล็กรีบลุกแล้ววิ่งไปหลบหลังพุ่มไม้ ร่างสูงของลูกชายแม่บ้านย่อตัวลงเช็คสภาพดอกไม้ด้วยความใจหายว่ามันจะตายไหม

 

 

โชคดีที่ดอกไม้โตพอสมควรที่สามารถทนแรงกดทับได้ แต่ก็ต้องยอมรับว่ามันช้ำไปหลายจุดอยู่ ชายหนุ่มถอนหายใจแล้วเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเหนื่อยอ่อน “ช้ำเยอะเลย….เจ้าเหมียวนี่นะ แล้วจะเอาไปให้คุณนายยังไงดีล่ะเนี่ย….” ปกติแปลงดอกไม้แปลงนี้ปลูกไว้เพื่อจุดประสงค์ก็คือเด็ดนำไปปักแจกันไว้ในคฤหาสน์รวมไปถึงห้องนอนของคุณท่านกับคุณนาย เจอเข้าไปแบบนี้คลาร์กก็ไม่รู้จะทำเช่นไรดี

 

 

สัมผัสได้ว่ามีใครกำลังจ้องมอง คลาร์กหันไปมองก็พบว่าเป็นเจ้าเหมียวตัวต้นเรื่องนั่นเอง ชายหนุ่มทรุดนั่งลงกับพื้นหญ้าแล้วกวักมือเรียกเจ้าสี่ขาให้ออกมา “ออกมานี่เลย มาเถอะ ฉันไม่ทำอะไรหรอก แค่อยากคุยด้วย”

 

 

เหมือนจะรู้ภาษาคน ร่างเล็กค่อยๆก้าวออกมาจากหลังพุ่มไม้ เดินกึ่งย่องมาหาร่างสูง พอเข้ารัศมีคว้าถึง มือก็อุ้มร่างของเจ้าแมวขึ้นมาทันที…แมวตัวนี้มีสีออกครีมๆ ขนเป็นสีน้ำตาลบริเวณใบหน้า หู หาง และเท้าทั้งสี่ ดวงตามีสีฟ้าอ่อนๆ คลาร์กสังเกตว่าเจ้าตัวมีปลอกคอด้วย เป็นไปได้ว่าอาจจะเป็นแมวของใครสักคนในคฤหาสน์ หรืออาจจะหลงมา

 

 

“นี่ ทีหลังไม่ทำแบบนี้แล้วนะ ถ้าแปลงดอกไม้ช้ำ ฉันจะไม่มีดอกไม้เด็ดไปให้คุณๆเขา เข้าใจไหม?” คลาร์กเอ่ย เจ้าเหมียวกะพริบตาปริบๆแล้วร้องเหมียวออกมา “เมี้ยว” มือคลาร์กยกขึ้นเกาคางแมวอย่างเอ็นดู แมวตัวนี้เชื่องพอสมควรเลยล่ะ ไม่ออกอาการขู่ฟ่อใดๆเลย

 

 

“เมี้ยววว…”

 

 

“ร้องหง่าวใหญ่เลย หิวหรือไงเราน่ะ มา เดี๋ยวจะพาไปกินของอร่อย” ร่างสูงลุกยืนขึ้นพร้อมกับอุ้มแมวเดินเข้าบ้าน คลาร์กวางร่างเล็กสีครีมลงบนพื้นแล้วหยิบชามออกมาใบหนึ่ง เป็นใบที่ไม่ค่อยได้ใช้ จากนั้นก็เปิดตู้เย็นหาปลาสดตัวเล็กออกมาตัวหนึ่งแล้ววางลงในชาม

 

 

“เอ้า หม่ำๆ ถือว่าเป็นสินบนละกัน นายจะได้ไม่มาทำลายล้างแปลงดอกไม้ฉันอีกไง” คลาร์กเอ่ยติดตลก เจ้าเหมียวร้องอย่างดีใจแล้วก้มกินปลาอย่างรวดเร็ว พอกินเสร็จก็มาคลอเคลียบริเวณขาของเขาตลอดเวลา ไม่ว่าจะเดินไปไหนมันก็จะตามไปตลอด

 

 

“ติดคนเหมือนกันนะเรา ไหนดูซิว่าเป็นพันธุ์อะไร” คลาร์กหยิบหนังสือสายพันธุ์แมวทั่วโลกออกมา มืออีกข้างที่ว่างก็คว้าตัวเจ้าสี่ขาขึ้นมานั่งตัก ก่อนที่จะเปิดหนังสือภาพไปเรื่อยๆ

 

 

“….อ้อ…พันธุ์ไทย…อีกชื่อก็คือวิเชียรมาศ แมวฝั่งตะวันออกสินะ” ริมฝีปากได้รูปเอ่ยกับตนเองขณะไล่อ่านรายละเอียด ระหว่างนั้นเจ้าเหมียวก็นอนขดอย่างสบายอารมณ์ ผ่านไปสักพักก็ลุกขึ้น กระโดดลงจากตักแล้ววิ่งไปข่วนๆประตูบ้าน

 

 

คลาร์กปิดหนังสือเก็บเข้าชั้นแล้วมองไปด้วยความประหลาดใจ “หืม? อยากออกไปข้างนอกแล้วเหรอ? ก็ได้ๆ” ร่างสูงเดินไปเปิดประตูให้ แล้วเจ้าเหมียวก็วิ่งออกไปทันที คลาร์กพบภายหลังจากเดินตามมาว่าเจ้าตัวเล็กปีนขึ้นไปเล่นบนต้นไม้ใหญ่โซนด้านหน้าข้างๆตัวคฤหาสน์นั่นเอง

 

 

แต่ดูเหมือนจะเกิดปัญหาบางอย่าง…  “เมี้ยวววว….” เจ้าเหมียวร้องเสียงดัง แต่น้ำเสียงดูหงอยๆไม่ค่อยดี คลาร์กก็พยายามชะโงกมองว่าเกิดอะไรขึ้น

 

 

เขาพบว่าขาหลังด้านขวาของมันติดกับร่องกิ่งไม้และขยับออกไม่ได้

 

 

“เอ้า ปีนขึ้นไปก็ติดเองซะงั้น รอแปบนึงนะ เดี๋ยวฉันขึ้นไปช่วย” ชายหนุ่มค่อยๆปีนขึ้นต้นไม้อย่างระมัดระวัง ขณะที่กำลังสาละวนอยู่กับการช่วยแมว ลูกชายแม่บ้านก็ไม่ทันเห็นว่ามีคนเดินออกมาจากคฤหาสน์

 

 

“ดิ๊ก….ดิ๊ก…อยู่ไหน ออกมานี่เร็ว” บรูซหันซ้ายหันขวามองหาแมวของตน แล้วสายตาก็ไปสะดุดกับร่างที่อยู่บนต้นไม้ทั้งคนทั้งแมว

 

 

“ดิ๊ก!” เสียงทุ้มตะโกนออกไป เจ้าแมวก็ร้องออกมา ส่วนคลาร์กก็หันขวับมามองอย่างตกใจ และนั่นทำให้เขาเผลอเหยียบกิ่งไม้พลาด ร่วงตกลงมาหลังจากช่วยเอาขาแมวออกจากร่องได้พอดี

 

 

ตุ้บ!

 

 

“โอ๊ย!” ดวงตาสีเฮเซลเบิกกว้างก่อนจะรีบวิ่งเข้าไปหาร่างคนเจ็บ คลาร์กนอนนิ่วหน้าด้วยความปวดจากการตกต้นไม้ ดีที่ว่าตกจากระดับที่ไม่สูงมาก ไม่งั้นคงขาหักไปแล้วแน่ๆ

 

 

“…เป็นอะไรตรงไหนบ้าง เธอเจ็บตรงไหน?” บรูซเอ่ยถามขณะพยุงคนตัวเล็กกว่าให้ลุกขึ้นมานั่ง ก่อนจะดันร่างให้นั่งพิงกับต้นไม้ ด้านดิ๊กก็ไต่ลงมาจากต้นไม้ เข้ามาร้องเหมียวอยู่ข้างๆ

 

 

อาการเจ็บเมื่อครู่กลายเป็นความประหม่าทันทีเมื่อเห็นว่าใครเป็นคนที่เข้ามาหา “เอ่อ…โอย…ผมไม่เป็นอะไรมากครับคุณชาย แค่เจ็บนิดเดียวเอง…เอ่อ…” ได้คำตอบแบบนั้นสายตาดุๆก็ตวัดมอง ตามมาด้วยมือใหญ่ที่ตบเบาๆที่ข้อเท้าซ้ายของคลาร์ก

 

 

“โอ๊ย! คุณชาย ผมเจ็บนะครับ” ชายหนุ่มวัยยี่สิบหกร้องโอยทันที

 

 

“นี่น่ะเหรอที่เธอเรียกว่าเจ็บนิดเดียว? ข้อเท้าแดงขนาดนี้…คงแพลงแบบไม่ต้องคิด” เสียงทุ้มเอ่ยดุๆแล้วตบเบาๆที่แผ่นหลังอีก คลาร์กก็ร้องเจ็บอีก “นี่ไง ตรงหลังก็เจ็บ”

 

 

“คุ..คุณชาย จะ..จะทำอะไรครับ…คุณชาย! ผมเดินเองได้ครับ!” คลาร์กร้องเสียงหลงเมื่อร่างของเขาถูกช้อนตัวอุ้มขึ้นมาโดยคนตัวสูงกว่า

 

 

“แน่ใจว่าเดินเองได้?” บรูซเลิกคิ้วมองแล้วเอ่ยถาม

 

 

“ด..เดินได้ครับ” เสียงทุ้มน้อยกว่าเอ่ยแบบลังเล…จริงๆก็ไม่รู้ว่าจะไหวหรือเปล่า…

 

 

ไม่รู้ล่ะ ยังไงก็ไม่อยากโดนอุ้มนี่ !

 

 

ในหัวคิดหาเหตุผลร้อยแปดประการที่ว่าทำไมคุณชายไม่ควรอุ้มเขา…หนึ่งคืออีกฝ่ายเป็นเจ้านาย สองคือเขาก็ตัวไม่ใช่เบาๆ อุ้มลำบาก แล้วก็….แล้วก็…..การกระทำแบบนี้มันทำให้เขารู้สึกแปลกๆแบบที่ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน

 

 

ตุ้บ!

 

 

“โอ๊ย! คุณปล่อยผมลงทำไมครับเนี่ย!?” คลาร์กเผลอโวยออกมา

 

 

“ก็เธอบอกว่าจะเดินเอง” ร่างสูงใหญ่ตอบหน้าตายขณะที่หลุบมองคนบนพื้น คลาร์กกะพริบตาปริบๆแล้วสวนกลับไปทันที “ก็ใช่ครับ แต่ก็ไม่เห็นต้องปล่อยลงเลยนี่นา วางดีๆก็ได้นี่ครับ”

 

 

หนุ่มใหญ่ถอนหายใจเฮือกแล้วเอ่ยเสียงดุ “เลิกทำตัวเป็นเด็กดื้อสักที ฉันรู้ว่าเธอน่ะรู้ลิมิตตัวเอง เธอรู้อยู่แก่ใจว่าตัวเองเดินไม่ไหวแต่ก็ยังจะฝืน ฉันถามหน่อยเถอะว่าดื้อไปแล้วได้อะไรขึ้นมา? แถมยังมาเถียงฉันอีก”

 

 

ชายหนุ่มคนฟังถึงกับเงียบไปทันทีก่อนจะระลึกได้ว่าตัวเองเผลอโวยวายเจ้านายอะไรออกไปตั้งเยอะแยะ…ซวย ซวย นายมันแย่มากคลาร์ก เคนท์

 

 

“ฉันปล่อยเธอก็เพราะตั้งใจจะให้เจ็บกว่าเดิม จะได้ไม่ต้องเถียงว่าไม่เจ็บ จะได้เลิกดื้อสักที มานี่” บรูซพูดจบก็ช้อนร่างของคลาร์กขึ้นมาอีกครั้งแล้วเดินเข้าคฤหาสน์ไป โดยมีเจ้าเหมียวดิ๊กวิ่งตามมาด้วย

 

 

คุณชายแฝดสามคนโตบรรจงวางร่างของลูกชายแม่บ้านลงบนโซฟาห้องนั่งเล่นก่อนจะเดินไปหยิบอุปกรณ์ทำแผลมาจากตู้ยาสามัญประจำบ้าน ร่างสูงคุกเข่าลงเพื่อจะดูแผลที่ข้อเท้า คลาร์กก็เผลออุทานออกมาด้วยความเกรงใจตามนิสัย “ผม..ผมทำแผลเองก็ได้ครับคุณชาย ผมเกรงใจคุณ…”

 

 

บรูซตวัดสายตาขึ้นมองดุๆ “…..ให้คุณชายทำก็ได้ครับ…” ประโยคกลับลำแทบไม่ทัน คลาร์กจึงได้แต่นั่งมองคุณชายใหญ่ทำแผลให้ตนอย่างเงียบๆ

 

 

มือใหญ่ที่บรรจงพันข้อเท้าเขาด้วยผ้ายืดอย่างนุ่มนวลชวนให้คลาร์กรู้สึกประหลาดๆอีกแล้ว…เหมือนหน้ามันจะร้อนๆ เหมือนหัวใจมันจะเต้นเร็วกว่าเดิมนิดหน่อย… “คราวหน้าคราวหลังจะทำอะไรก็ระวังตัวหน่อย ไม่มีใครมาช่วยเธอได้ทันเวลาทุกครั้งหรอกนะ แล้วก็ไม่ต้องเกรงใจฉันหรอก เห็นคนเจ็บตรงหน้าก็ต้องช่วยอยู่แล้ว อย่าทำให้เป็นห่วงนัก” บรูซเอ่ยเสียงทุ้ม แต่ครั้งนี้ต่างจากที่คลาร์กได้ยินหลายครั้งที่ผ่านมา มันดูไม่มีความดุในน้ำเสียงอะไรเลย…และยิ่งกว่านั้นก็คือการที่ได้ยินคำว่า ‘เป็นห่วง’ จากปากอีกฝ่าย…คุณบรูซ ห่วงเขางั้นเหรอ?

 

 

ชายหนุ่มเอ่ยเสียงค่อย ใบหน้าหงอยซึมไปเล็กน้อย สวนทางกับตัวหัวใจที่เต้นไม่เป็นจังหวะ “ขอโทษครับคุณชาย…ต่อไปผมจะระวังตัว”

 

 

“ตอบรับแบบนี้ก็ดีแล้ว…หันหลังมา ฉันจะทายาให้” ร่างสูงกล่าว ใบหน้าสวยของคนเจ็บก็พยักเล็กน้อยแล้วหันหลังให้อย่างว่าง่าย …ใจเต้นแรงกว่าเดิมยามที่ปลายนิ้วของอีกฝ่ายป้ายยาลงบนแผ่นหลังแล้วถูไปมาเพื่อให้ยากระจายไปยังบริเวณที่เจ็บได้ทั่วถึง

 

 

บรูซพบว่าคนตรงหน้าผู้ชายที่ผิวละเอียดพอสมควร เหมือนไม่เคยมีร่องรอยการเกิดสิวที่หลังเลยสักนิด…นั่นทำให้คุณชายใหญ่เผลอลากปลายนิ้วไล้วนไปมาบนแผ่นหลังคนเจ็บอย่างอ้อยอิ่งแม้ว่าจะทายาเสร็จแล้ว …มันนุ่มกว่าตอนจับมือครั้งนั้นมากๆ… บรูซเผลอคิดในใจโดยไม่รู้ตัว

 

 

“คุณชาย…เอ่อ…ทายาเสร็จหรือยังครับ?” แล้วก็เป็นเสียงชายหนุ่มที่ดึงเขาออกจากห้วงความคิด บรูซกะพริบตาชั่วครู่เพื่อปรับสภาพความคิดตนก่อนจะดึงชายเสื้ออีกฝ่ายลงมาตามเดิม

 

 

“อืม….เสร็จแล้ว” หนุ่มใหญ่เอ่ยด้วยน้ำเสียงเบาหวิวแล้วรีบเก็บยาไปวางกลับเข้าที่ตู้เหมือนเดิม “สภาพแบบนี้เธอคงจะทำงานไม่ไหวไประยะหนึ่ง เดี๋ยวฉันจะไปบอกของแม่เธอให้ ระหว่างนี้ก็ดูแลตัวเองดีๆ”

 

 

ลูกชายแม่บ้านพยักหน้าอย่างว่าง่ายเพราะในใจของเจ้าตัวกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ด้านคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเวย์นก็หันความสนใจไปยังเจ้าเหมียวของตน “ซนจนได้เรื่อง เห็นไหมว่าเขาก็เจ็บ อยู่เฉยๆแบบเจสันหรือทิมบ้างก็ได้นะดิ๊ก” ดิ๊กร้องหง่าวแล้วเข้ามาถูๆไถๆตรงชายกางเกงของคนพูด บรูซส่ายหน้าพร้อมกับคลี่ยิ้มบางแล้วยีขนนุ่มบนหัวเล็กๆของเจ้าแมวอย่างเอ็นดู

 

 

“เธอนั่งพักตรงนี้ก่อนก็ได้ ยังไม่ต้องลุกไปไหนหรอก”

 

 

“ครับ…อ้อ…ก็ได้ครับ….ขอบคุณมากๆเลยนะครับคุณบรูซ” คลาร์กตอบรับแล้วตามด้วยกล่าวขอบคุณ คุณชายแฝดคนโตยกมือเป็นเชิงว่า ‘ไม่เป็นไร’ แล้วเดินออกไปจากห้องนั่งเล่นพร้อมกับสัตว์เลี้ยงของตน โดยมีดวงตาสีฟ้าคู่สวยมองตามจนกระทั่งประตูห้องถูกปิดลง

 

 

เป็นครั้งแรกสำหรับคลาร์กที่ได้เห็นรอยยิ้มของบรูซที่มักจะหน้าดุเป็นนิจ แถมยังได้เห็นด้านที่เรียกได้ว่า…มันเป็นด้านที่อ่อนโยนของคนที่เขาเข้าใจมาตลอดว่านิ่งขรึมและเย็นชาต่อทุกสิ่ง

 

 

หรือกำแพงน้ำแข็งที่เห็นกันบ่อยๆอาจจะไม่ใช่ตัวตนจริงๆของบรูซ เวย์น ก็เป็นได้…

 

 

บางทีเขาคงต้องพยายามมองคุณชายใหญ่แห่งตระกูลเวย์นใหม่เสียแล้ว

 

 

 

TBC

_______________________

ตอนสามมาแล้วค่ะ ตอนนี้เราปิดเทอมละ 555 มีเวลามาปั่นได้เรื่อยๆ ถ้าไม่ขี้เกีย—/โดนตบ

ติชมได้ตามสะดวกเลยนะคะ

ด้วยรักจากคุณชายใหญ่จอมแต๊ะอั๋–และลูกชายแม่บ้านค่ะ❤

5 thoughts on “Dawn of Us [3]

  1. นี่คลาร์ก เค้นท์หรือเจ้าหญิงดิสนี่ย์แงงง ทำไมนเองดูเหมาะกับอะไรที่เป็นธรรมชาติ ต้นไม้ ดอกไม้แล้วก็สัตว์แบบนี้คะฟฟฟฟฟฟฟ น่ารักฮืออออ อยากเอาคลาร์กมาโคลนเก็บไว้… ดิ๊กเหมือนเป็นแมวสื่อรักเลยค่ะ ชอบตอนคุณเวย์นอุ้มน้องด้วยฟฟฟคู่นี้แลดูพ่อแง่แม่งอนกันสุดๆ ฟฟฟฟฟ อะไรก็ไม่รู้ ทายาให้เค้าแล้วยังมาแอบมองว่าหลังน้องเนียนอีก ข่นบว้าฟฟฟฟฟฟ

  2. น้องคลาร์กยังคงความน่ารักและน่ารังแกไว้ แถมเหมือนจะเพิ่มมากขึ้นด้วยค่ะ ฟฟฟฟฟ โอยยยย อยากหยิกแก้มน้องมาก ฟฟฟหหหหหหห วี๊ดดดดดด ดูท่าทางน้องจะกลัวคุณชายใหญ่มากจริงๆ ดีใจอะไรเบอร์นั้นที่ไม่ต้องขึ้นตึกใหญ่ 55555
    ตอนเดินดูดอกไม้และคุยกับน้องดิ๊กนี่ฟีลเจ้าหญิงดิสนีย์อย่างที่น้องกี้บอกจริงๆ 555555 น้องดิ๊กซนนะคะ แต่ในฐานะที่เป็นกามเทพสื่อรักทำให้สองคนเขาใกล้ชิดกันพี่ให้อภัยค่ะ 55555 คุณบรูซดูละมุนมากตอนคุยกับน้องดิ๊ก ฮือออ ผู้ชายตัวโตๆ หน้าดุๆ แต่มายิ้ม ทำเสียงอ่อนใส่แมวนี่มัน ฟฟหหหหหหห //ระเบิดตัวตาย แอบเหลือกตาเบาๆตอนชมในใจว่าหลังน้องเนียน…แหม่ ไม่ค่อยเลยนะครัซ
    ตอนนี้น้องคลาร์กก็ได้เห็นมุมเจนเทิลของคุณชายใหญ่ไปแล้ว แถมคุณเขาอุ้มอีก ฟฟฟฟ รอดูความใกล้ชิดต่อไปค่าาา
    ปล.อยากกระโดดกัดคอคุณบรูซมากตอนปล่อยน้องลงพื้นเพื่อน้องจะได้เจ็บ แล้วยอมให้อุ้ม บ้าาาา ใจร้ายยยยยยย

  3. จะพยายามไม่มองคลาร์กเป็นสโนว์ไวท์ที่คุยกับนกนะคะ 555555555 น่ารักจังเลย ฟฟฟฟฟฟฟฟฟ ทั้งแมว ทั้งคลาร์ก … ฮื้ออออออ แล้วคุณบรูซก็มาประจวบเหมาะเป็นเจ้าชายเลยย โง่ยยยยย #มโนแจ่มไปอีก ฟิคสนุกมากค่ะ ><

  4. อ่า…..ตอนคนสวยเรียกแมวนี่เรากรี๊ดหนักมากค่ะ ใจสั่นด้วย โง้ยยยยยยย ทำไมน่ารักอย่างนี้ค่ะ น้ำลายเราฟูมปาก(?)แล้วค่ะ ฟฟฟฟฟฟ
    ตอนทายานี่ฟินขั้นสุดเลยค่ะ 5555555

Leave a reply to iironyblog Cancel reply